iPhone เทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือเหนือคำบรรยาย
เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ผ่านมาไม่นานนี้ โลกของโทรศัพท์มือถือต้องตลึงกับการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ของโลกโทรศัพท์มือถือที่ชื่อ iPhone แห่งบริษัท Apple Inc. ลูกค้าบางคนลงทุนตื่นตั้งแต่เช้ามืดไปเข้าแถวรอเพื่อซื้อโทรศัพท์รุ่นนี้เป็นเวลานานถึง 8 ชั่วโมง ที่หน้าร้านขายโทรศัพท์ AT&T ซานฟรานซิสโก, แคลิฟฟอร์เนีย ซึ่งมีการกำหนดวันเปิดตัวล่วงหน้าแน่นอนเอาไว้ก่อนแล้ว ทำไม iPhone ถึงสร้างกระแสดังได้มากมาย ไม่แพ้จตุคามรามเทพของบ้านเราขนาดนั้น เนื่องด้วยเพราะ iPhone เป็นโทรศัพท์ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่เครื่องแรกของบริษัท Apple เป็นการนำเอาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กของโทรศัพท์เซลลูล่าร์ (Cellular Telephone) และเครื่องเล่น MP (Media Player) มารวมไว้ในเครื่องเดียวกัน สามารถฟังเพลง, เล่นวิดีโอ, มีกล้องดิจิตอล, คอมพิวเตอร์ดิจิตอลช่วยงานส่วนบุคคล (Personal Digital Assistant : PDA) และชุดการสื่อสารด้วยระบบอินเตอร์เน็ต สาเหตุที่ทำให้ลูกค้าเป็นจำนวนนับร้อยมาเข้าแถวรอซื้อโทรศัพท์ IPhone คือ :
§ ความมีชื่อเสียงของบริษัท Apple ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการยอมรับ
ในเรื่องของคุณภาพมาตรฐานมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยเฉพาะการผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer : PC) ที่รู้จักกันในนามเครื่องคอมพิวเตอร์ Macintosh มีรูปโลโก้เป็นผลไม้ Apple ใช้ระบบปฏิบัติการที่เรียกว่า Mac OS ซึ่งจะมีลักษณะเด่นด้านงานกราฟฟิกส์เป็นส่วนใหญ่ เช่น ใช้รองรับการทำงานของโปรแกรม Page Maker, Auto CAD, Illustration Software เป็นต้น ส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอีกประเภทหนึ่งที่เราใช้งานกันอยู่ทั่วไป คือเครื่อง PC ที่สามารถเข้ากันได้กับเครื่องของ IBM ใช้ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows สามารถใช้ปฏิบัติงานได้กับซอฟต์แวร์หลายประเภท เช่น MS-Offices หรือโปรแกรมประยุกต์อื่นๆ
§ ลักษณะเด่นพิเศษของ iPhone ซึ่งคาดหมายกันว่า ด้วยคุณสมบัติของ iPhone นี้จะทำให้ก่อ
เกิดอารยะธรรมใหม่ต่อจาก iPod ซึ่งพอประมวลได้ดังนี้ คือ (1) ขนาดและน้ำหนัก คือ สูง 4.5 นิ้ว, กว้าง 2.4 นิ้ว, บาง 0.46 นิ้ว, น้ำหนัก 4.8 ออนส์ หรือ 135 กรัม (2) ความจุหน่วยความจำแสง (Flash Drive) คือ 4 GB หรือ 8 GB (3) การแสดงผล คือ จอภาพสัมผัส (Touch Screen) 3.5 นิ้ว แบบ Multi-Touch, ความละเอียดจอภาพ 480*320 Pixels หรือ 160 จุด/นิ้ว (dpi), สนับสนุนการใช้งานได้หลายภาษา, (4) ใช้ระบบปฏิบัติการ Mac OS X, (5) รองรับระบบโทรศัพท์ GSM : Quad-band (850, 900, 1800, 1900 MHz), (6) ใช้กับข้อมูลไร้สาย คือ Wi-Fi (802.11b/g), EDGE, Bluetooth 2.0+EDR, (7) กล้องดิจิตอล ความละเอียดภาพ 2.0 megapixels, (8) ระบบเสียง รองรับคลื่นความถี่ 20 Hz ถึง 20,000 Hz, สนับสนุนรูปแบบเสียง ACC, Protected ACC, MP3, MP3 VBR, Apple Lossless, AIFF, (9) ระบบการฟังเสียงโทรศัพท์ คือ มีหูฟังระบบสเตอร์ริโอ ติดมากับไมโครโฟน และไร้สายแบบ Bluetooth, รับคลื่นความถี่ 20 Hz ถึง 20,000 Hz , (10) ระบบวิดีโอ คือ มีระบบสนับสนุนวิดีโอ H.264 video, up to 1.5 Mbps, 640 by 480 pixels, 30 เฟรมต่อวินาที, (11) แบตเตอร์รี่ lithium ion พร้อมแท่นชาร์ท, พูดได้นาน 8 ชั่วโมงขึ้นไป, Standby 250 ชั่วโมง, ใช้อินเตอร์เน็ตได้ 6 ชั่วโมงขึ้นไป (http://www.apple.com/)
นอกจากนี้ โทรศัพท์ iPhone ยังสามารถใช้งานต่างๆ ได้เหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ Macintosh เช่น ใช้เปิดอ่านอีเมล์ เล่นเว็บไซต์ เชื่อมต่อกับ Google Map และรองรับ Push IMAP ของ yahoo! Mail, เปิดเว็บไซต์ได้ด้วยโปรแกรม Safari บนเครื่อง Mac, มีระบบตรวจจับความเร็วที่มีชื่อว่า Accelerometer ที่คอยตรวจจับความเคลื่อนไหวของมือที่สัมผัสลงบนหน้าจอ, หน้าจอหมุนได้โดยอัตโนมัติ เพียงแค่คุณหมุนเครื่อง หน้าจอก็จะหมุนตามอัตโนมัติ IPhone ที่มีวางจำหน่ายในอเมริกาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2550 จนถึงขณะนี้มี 2 รุ่นคือ (1) iPhone 4GB ราคา $499, (2) iPhone 8GB ราคา $599 ในประเทศอื่นๆ แถบยุโรปจะมีวางขายในไตรมาสสุดท้ายของปี 2550 ส่วนในเอเชียคาดว่าจะมีวางขายในปี 2551 เป้าหมายของบริษัท Apple Inc. คือ ต้องการส่วนแบ่งทางการตลาดเพียง 1% ในปี 2551 (http://www.techxcite.com/)
หลังจากประกาศเปิดตัว IPhone ได้เพียงวันเดียวเท่านั้น บริษัทซิสโก้ (Cisco) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ให้บริการ (Server) ได้ทำการฟ้องร้องบริษัท Apple โดยกล่าวหาว่า ได้ใช้ตราสัญลักษณ์สินค้า iPhone ซ้ำกันกับของบริษัทซิสโก้ ซึ่งได้จดทะเบียนไว้กับบริษัท InforGear Technology Corporation ตั้งแต่ปี 1999 และซิสโก้ได้นำชื่อ iPhone ไปใช้กับอุปกรณ์โทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ต ที่ใช้เทคโนโลยี Voice over Internet Protocol : VOIP) มาตั้งแต่ปี 2006 ฝ่ายบริษัท Apple ได้ตอบโต้ว่า ชื่อ iPhone เป็นชื่อที่มีใช้กันมานานแล้ว อย่างน้อยมี 2-3 บริษัทใช้ในประเทศต่างๆ และถูกเพิกเฉยละเลย ส่วนบริษัท Apple เป็นบริษัทแรกที่นำมาใช้กับโทรศัพท์มือถือ (http://what-is-what.com/) เรื่องราวจะเป็นไปอย่างไรต่อไปนั้นคงต้องติดตามดูกันต่อไป แต่ในวินาทีนี้นับได้ว่า iPhone นวัตกรรมใหม่ของบริษัท Apple สร้างความตลึงให้แก่ชาวโลกได้ไม่น้อยทีเดียว.
เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ผ่านมาไม่นานนี้ โลกของโทรศัพท์มือถือต้องตลึงกับการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ของโลกโทรศัพท์มือถือที่ชื่อ iPhone แห่งบริษัท Apple Inc. ลูกค้าบางคนลงทุนตื่นตั้งแต่เช้ามืดไปเข้าแถวรอเพื่อซื้อโทรศัพท์รุ่นนี้เป็นเวลานานถึง 8 ชั่วโมง ที่หน้าร้านขายโทรศัพท์ AT&T ซานฟรานซิสโก, แคลิฟฟอร์เนีย ซึ่งมีการกำหนดวันเปิดตัวล่วงหน้าแน่นอนเอาไว้ก่อนแล้ว ทำไม iPhone ถึงสร้างกระแสดังได้มากมาย ไม่แพ้จตุคามรามเทพของบ้านเราขนาดนั้น เนื่องด้วยเพราะ iPhone เป็นโทรศัพท์ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่เครื่องแรกของบริษัท Apple เป็นการนำเอาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กของโทรศัพท์เซลลูล่าร์ (Cellular Telephone) และเครื่องเล่น MP (Media Player) มารวมไว้ในเครื่องเดียวกัน สามารถฟังเพลง, เล่นวิดีโอ, มีกล้องดิจิตอล, คอมพิวเตอร์ดิจิตอลช่วยงานส่วนบุคคล (Personal Digital Assistant : PDA) และชุดการสื่อสารด้วยระบบอินเตอร์เน็ต สาเหตุที่ทำให้ลูกค้าเป็นจำนวนนับร้อยมาเข้าแถวรอซื้อโทรศัพท์ IPhone คือ :
§ ความมีชื่อเสียงของบริษัท Apple ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการยอมรับ
ในเรื่องของคุณภาพมาตรฐานมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยเฉพาะการผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer : PC) ที่รู้จักกันในนามเครื่องคอมพิวเตอร์ Macintosh มีรูปโลโก้เป็นผลไม้ Apple ใช้ระบบปฏิบัติการที่เรียกว่า Mac OS ซึ่งจะมีลักษณะเด่นด้านงานกราฟฟิกส์เป็นส่วนใหญ่ เช่น ใช้รองรับการทำงานของโปรแกรม Page Maker, Auto CAD, Illustration Software เป็นต้น ส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอีกประเภทหนึ่งที่เราใช้งานกันอยู่ทั่วไป คือเครื่อง PC ที่สามารถเข้ากันได้กับเครื่องของ IBM ใช้ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows สามารถใช้ปฏิบัติงานได้กับซอฟต์แวร์หลายประเภท เช่น MS-Offices หรือโปรแกรมประยุกต์อื่นๆ
§ ลักษณะเด่นพิเศษของ iPhone ซึ่งคาดหมายกันว่า ด้วยคุณสมบัติของ iPhone นี้จะทำให้ก่อ
เกิดอารยะธรรมใหม่ต่อจาก iPod ซึ่งพอประมวลได้ดังนี้ คือ (1) ขนาดและน้ำหนัก คือ สูง 4.5 นิ้ว, กว้าง 2.4 นิ้ว, บาง 0.46 นิ้ว, น้ำหนัก 4.8 ออนส์ หรือ 135 กรัม (2) ความจุหน่วยความจำแสง (Flash Drive) คือ 4 GB หรือ 8 GB (3) การแสดงผล คือ จอภาพสัมผัส (Touch Screen) 3.5 นิ้ว แบบ Multi-Touch, ความละเอียดจอภาพ 480*320 Pixels หรือ 160 จุด/นิ้ว (dpi), สนับสนุนการใช้งานได้หลายภาษา, (4) ใช้ระบบปฏิบัติการ Mac OS X, (5) รองรับระบบโทรศัพท์ GSM : Quad-band (850, 900, 1800, 1900 MHz), (6) ใช้กับข้อมูลไร้สาย คือ Wi-Fi (802.11b/g), EDGE, Bluetooth 2.0+EDR, (7) กล้องดิจิตอล ความละเอียดภาพ 2.0 megapixels, (8) ระบบเสียง รองรับคลื่นความถี่ 20 Hz ถึง 20,000 Hz, สนับสนุนรูปแบบเสียง ACC, Protected ACC, MP3, MP3 VBR, Apple Lossless, AIFF, (9) ระบบการฟังเสียงโทรศัพท์ คือ มีหูฟังระบบสเตอร์ริโอ ติดมากับไมโครโฟน และไร้สายแบบ Bluetooth, รับคลื่นความถี่ 20 Hz ถึง 20,000 Hz , (10) ระบบวิดีโอ คือ มีระบบสนับสนุนวิดีโอ H.264 video, up to 1.5 Mbps, 640 by 480 pixels, 30 เฟรมต่อวินาที, (11) แบตเตอร์รี่ lithium ion พร้อมแท่นชาร์ท, พูดได้นาน 8 ชั่วโมงขึ้นไป, Standby 250 ชั่วโมง, ใช้อินเตอร์เน็ตได้ 6 ชั่วโมงขึ้นไป (http://www.apple.com/)
นอกจากนี้ โทรศัพท์ iPhone ยังสามารถใช้งานต่างๆ ได้เหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ Macintosh เช่น ใช้เปิดอ่านอีเมล์ เล่นเว็บไซต์ เชื่อมต่อกับ Google Map และรองรับ Push IMAP ของ yahoo! Mail, เปิดเว็บไซต์ได้ด้วยโปรแกรม Safari บนเครื่อง Mac, มีระบบตรวจจับความเร็วที่มีชื่อว่า Accelerometer ที่คอยตรวจจับความเคลื่อนไหวของมือที่สัมผัสลงบนหน้าจอ, หน้าจอหมุนได้โดยอัตโนมัติ เพียงแค่คุณหมุนเครื่อง หน้าจอก็จะหมุนตามอัตโนมัติ IPhone ที่มีวางจำหน่ายในอเมริกาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2550 จนถึงขณะนี้มี 2 รุ่นคือ (1) iPhone 4GB ราคา $499, (2) iPhone 8GB ราคา $599 ในประเทศอื่นๆ แถบยุโรปจะมีวางขายในไตรมาสสุดท้ายของปี 2550 ส่วนในเอเชียคาดว่าจะมีวางขายในปี 2551 เป้าหมายของบริษัท Apple Inc. คือ ต้องการส่วนแบ่งทางการตลาดเพียง 1% ในปี 2551 (http://www.techxcite.com/)
หลังจากประกาศเปิดตัว IPhone ได้เพียงวันเดียวเท่านั้น บริษัทซิสโก้ (Cisco) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ให้บริการ (Server) ได้ทำการฟ้องร้องบริษัท Apple โดยกล่าวหาว่า ได้ใช้ตราสัญลักษณ์สินค้า iPhone ซ้ำกันกับของบริษัทซิสโก้ ซึ่งได้จดทะเบียนไว้กับบริษัท InforGear Technology Corporation ตั้งแต่ปี 1999 และซิสโก้ได้นำชื่อ iPhone ไปใช้กับอุปกรณ์โทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ต ที่ใช้เทคโนโลยี Voice over Internet Protocol : VOIP) มาตั้งแต่ปี 2006 ฝ่ายบริษัท Apple ได้ตอบโต้ว่า ชื่อ iPhone เป็นชื่อที่มีใช้กันมานานแล้ว อย่างน้อยมี 2-3 บริษัทใช้ในประเทศต่างๆ และถูกเพิกเฉยละเลย ส่วนบริษัท Apple เป็นบริษัทแรกที่นำมาใช้กับโทรศัพท์มือถือ (http://what-is-what.com/) เรื่องราวจะเป็นไปอย่างไรต่อไปนั้นคงต้องติดตามดูกันต่อไป แต่ในวินาทีนี้นับได้ว่า iPhone นวัตกรรมใหม่ของบริษัท Apple สร้างความตลึงให้แก่ชาวโลกได้ไม่น้อยทีเดียว.
